วันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ข่าวสถานการณ์น้ำชลประทาน 9 กรกฎาคม 2557

 

ข่าวสถานการณ์น้ำชลประทาน

ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

โทร.สายด่วน 1460 / E- mail : wmsc.1460@gmail.com / http://water.rid.go.th/wmsc

-----------------------------------------------------------------------------

ฝนนี้น้ำน้อย เตือนทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัด ป้องกันปัญหาขาดแคลนน้ำในอนาคต

ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน เปิดเผยว่า ฤดูฝนปีนี้ ฝนตกน้อยทั้งในพื้นที่เหนือเขื่อนและใต้เขื่อน ทำให้มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำค่อนข้างน้อยตามไปด้วย ต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้ร่วมมือกันใช้น้ำอย่างประหยัด ลดเสี่ยงขาดแคลนน้ำในอนาคต

ทั้งนี้ จากการติดตามสภาพฝนตั้งแต่เดือนมกราคม 2557 เป็นต้นมา พบว่ามีปริมาณฝนสะสมน้อยกว่าค่าปกติ หรือมีฝนตกในเกณฑ์น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงต้นฤดูฝนเดือนพ.ค. – มิ.ย. 57 มีปริมาณฝนตกค่อนข้างน้อย สภาพฝนสะสมตั้งแต่ 1 ม.ค. – 6 ก.ค. 57 พื้นที่ภาคเหนือ มีฝนต่ำกว่าค่าปกติ 128.4 มิลลิเมตร หรือคิดเป็นร้อยละ27 ของค่าปกติ ส่วนในพื้นที่ภาคกลาง มีฝนต่ำกว่าค่าปกติ 134 มิลลิเมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 28 ของค่าปกติ ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำต่างๆในเกณฑ์น้อย และต้องระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำเพิ่มมากขึ้นกว่าแผนที่วางไว้ เพื่อเสริมน้ำฝนที่ตกน้อยกว่าปกติ จนส่งผลให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ ลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์น้ำล่าสุด(9 ก.ค. 57) เขื่อนภูมิพล มีปริมาณน้ำใช้การได้ 257 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 327 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมปริมาณน้ำใช้การได้ของทั้งสองเขื่อน จะเห็นได้ว่ามีน้ำเหลือใช้ได้เพียง 584 ล้านลูกบาศก์เมตร เท่านั้น ในส่วนของเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน มีน้ำใช้การได้ 77 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 68 ล้านลูกบาศก์เมตร

ปัจจุบันมีการระบายน้ำจากเขื่อนทั้ง 4 แห่ง ดังกล่าวข้างต้น รวมกันวันละประมาณ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร หากคิดการระบายน้ำด้วยอัตราดังกล่าว จะสามารถส่งน้ำได้เพียงประมาณ 15 วันเท่านั้น(กรณีไม่คิดปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำ) กรมชลประทาน ได้มีการติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ซึ่งอาจมีการปรับแผนการระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำต่างๆ ให้มีความเหมาะสมตามสถานการณ์ เพื่อไม่ให้เกิดการขาดแคลนน้ำ ในการอุปโภค – บริโภค และรักษาระบบนิเวศน์ พร้อมทั้งไม่ให้เกิดความเสียหายต่อพื้นที่เกษตรกรรมที่ได้ดำเนินการเพาะปลูกไปแล้ว

ดังนั้น กรมชลประทาน จึงใคร่ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาใหญ่ รับทราบถึงสถานการณ์น้ำต้นทุนในปัจจุบัน พร้อมทั้งให้รณรงค์ช่วยกันประหยัดน้ำ และขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำการใช้น้ำจากเจ้าหน้าที่ชลประทานในพื้นที่ของตนอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาในระยะต่อๆไป ซึ่งอาจจะเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงหรือฝนตกน้อยได้ รวมทั้ง ขอให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดด้วย

********************************************

9 กรกฎาคม 2557

ไม่มีความคิดเห็น: